สมยศ รับ ไทยแลนด์เวย์ เป็นเรื่องยากที่จะทำได้!!
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลฯ ยอมรับ การทำสไตล์ฟุตบอล "ไทยแลนด์เวย์"
เป็นเรื่องยาก เพราะทีมชาติไทยมีเวลาซ้อมน้อย ต้องฝากทุกสโมสรให้ฝึกซ้อมเป็นรูปแบบเดียวกัน หวัง 5-10 ปี จะเป็นรูปเป็นร่าง เมื่อช่วงสายวันนี้(16 พ.ค.) ที่สมาคมฟุตบอลฯ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้ประชุมร่วมกันกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยทุกชุด ได้แก่ "เฮงซัง" วิทยา เลาหกุล อุปนายกฝ่ายพัฒนาเทคนิค, "โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดใหญ่, อเล็กซานเดร กาม่า หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี, อิสสระ ศรีทะโร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี และ ทีมงานสตาฟฟ์โค้ช จากบริษัท เอคโคโนฯ หลังการประชุม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ได้กล่าวว่า "ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ ทุกรุ่นมีโปรแกรมการแข่งขันหลายรายการ เรื่องการเตรียมทีมถือว่ามีความสำคัญ ซึ่งเราต้องพูดคุยกันเพื่อให้มีความพร้อมมากที่สุด" "เราได้มีการทบทวนแบบฝึกสอนที่สมาคมฯ ต้องการให้รูปแบบการเล่นของทีมชาติเป็นไปในทางเดียวกันนั่นคือ "ไทยแลนด์เวย์" เราให้กฎและหลักการในการซ้อมว่าทำได้ไหม โดยโค้ชแต่ละคนก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก เนื่องจากว่านักกีฬามาอยู่แคมป์ทีมชาติเพียง 5 วัน เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้มากนัก หลังจากนี้ก็คงเป็นหน้าที่ของสมาคมฯ ที่จะเข้าไปคุยกับสโมสร ว่ารูปแบบการฝึกซ้อมควรเป็นแบบสากลในทิศทางเดียวกัน" "เราพยายามทำรูปแบบการฝึกซ้อมแบบไทยแลนด์เวย์ ให้แพร่หลายกระจายไปในระดับรากหญ้าให้มากที่สุด ทุกวันนี้การอบรมโค้ชขั้นพื้นฐานก็เน้นไปที่การฝึกแบบไทยเเลนด์เวย์ และเชื่อว่าอีก 5-10 ปีข้างหน้า คนที่อบรมนำไปสอนก็จะเกิดประโยชน์ในอนาคต เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน" นอกจากนั้น พล.ต.อ.สมยศ ยังได้กล่าวถึงการแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพว่า "ในรายการ คิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ซึ่งทั้ง 3 ทีมที่ร่วมแข่งขัน ได้แก่ เวียดนาม, กือราเซา และ อินเดีย ทุกทีมล้วนมีแรงกิ้งสูงกว่าเรา ถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทาย เราจะประมาทไม่ได้ ฉะนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีที่นักกีฬาและโค้ชจะได้พิสูจน์ตัวเองว่าถ้าเราเจอทีมที่มีความแข็งแกร่งกว่า มีความพร้อมและมีความสด เราจะผ่านไปได้ไหม ซึ่งทุกคนต้องไม่ประมาทและมีความตั้งใจ รวมถึงกำลังใจจากแฟนบอลที่มีให้กับนักกีฬา เชื่อว่าทุกคนจะสร้างผลงานที่ดีได้" สำหรับการแข่งขันฟุตบอลรายการชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 จะจัดขึ้นในวันที่ 5 และ 8 มิถุนายน 2562 ณ สนามช้าง อารีน่า จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 มีดังนี้
วันที่ 5 มิถุนายน 2562
ทีมชาติกือราเซา พบกับ ทีมชาติอินเดีย ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 15.30 น.
ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติเวียดนาม ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 19.45 น.
วันที่ 8 มิถุนายน 2562
คู่ชิงอันดับ 3 ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 15.30 น.
คู่ชิงชนะเลิศที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 19.45 น.
เพิ่มเติม >> https://www.hayaletboard.net/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E/
เป็นเรื่องยาก เพราะทีมชาติไทยมีเวลาซ้อมน้อย ต้องฝากทุกสโมสรให้ฝึกซ้อมเป็นรูปแบบเดียวกัน หวัง 5-10 ปี จะเป็นรูปเป็นร่าง เมื่อช่วงสายวันนี้(16 พ.ค.) ที่สมาคมฟุตบอลฯ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้ประชุมร่วมกันกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยทุกชุด ได้แก่ "เฮงซัง" วิทยา เลาหกุล อุปนายกฝ่ายพัฒนาเทคนิค, "โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดใหญ่, อเล็กซานเดร กาม่า หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี, อิสสระ ศรีทะโร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี และ ทีมงานสตาฟฟ์โค้ช จากบริษัท เอคโคโนฯ หลังการประชุม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ได้กล่าวว่า "ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ ทุกรุ่นมีโปรแกรมการแข่งขันหลายรายการ เรื่องการเตรียมทีมถือว่ามีความสำคัญ ซึ่งเราต้องพูดคุยกันเพื่อให้มีความพร้อมมากที่สุด" "เราได้มีการทบทวนแบบฝึกสอนที่สมาคมฯ ต้องการให้รูปแบบการเล่นของทีมชาติเป็นไปในทางเดียวกันนั่นคือ "ไทยแลนด์เวย์" เราให้กฎและหลักการในการซ้อมว่าทำได้ไหม โดยโค้ชแต่ละคนก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก เนื่องจากว่านักกีฬามาอยู่แคมป์ทีมชาติเพียง 5 วัน เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้มากนัก หลังจากนี้ก็คงเป็นหน้าที่ของสมาคมฯ ที่จะเข้าไปคุยกับสโมสร ว่ารูปแบบการฝึกซ้อมควรเป็นแบบสากลในทิศทางเดียวกัน" "เราพยายามทำรูปแบบการฝึกซ้อมแบบไทยแลนด์เวย์ ให้แพร่หลายกระจายไปในระดับรากหญ้าให้มากที่สุด ทุกวันนี้การอบรมโค้ชขั้นพื้นฐานก็เน้นไปที่การฝึกแบบไทยเเลนด์เวย์ และเชื่อว่าอีก 5-10 ปีข้างหน้า คนที่อบรมนำไปสอนก็จะเกิดประโยชน์ในอนาคต เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน" นอกจากนั้น พล.ต.อ.สมยศ ยังได้กล่าวถึงการแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพว่า "ในรายการ คิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ซึ่งทั้ง 3 ทีมที่ร่วมแข่งขัน ได้แก่ เวียดนาม, กือราเซา และ อินเดีย ทุกทีมล้วนมีแรงกิ้งสูงกว่าเรา ถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทาย เราจะประมาทไม่ได้ ฉะนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีที่นักกีฬาและโค้ชจะได้พิสูจน์ตัวเองว่าถ้าเราเจอทีมที่มีความแข็งแกร่งกว่า มีความพร้อมและมีความสด เราจะผ่านไปได้ไหม ซึ่งทุกคนต้องไม่ประมาทและมีความตั้งใจ รวมถึงกำลังใจจากแฟนบอลที่มีให้กับนักกีฬา เชื่อว่าทุกคนจะสร้างผลงานที่ดีได้" สำหรับการแข่งขันฟุตบอลรายการชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 จะจัดขึ้นในวันที่ 5 และ 8 มิถุนายน 2562 ณ สนามช้าง อารีน่า จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 มีดังนี้
วันที่ 5 มิถุนายน 2562
ทีมชาติกือราเซา พบกับ ทีมชาติอินเดีย ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 15.30 น.
ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติเวียดนาม ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 19.45 น.
วันที่ 8 มิถุนายน 2562
คู่ชิงอันดับ 3 ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 15.30 น.
คู่ชิงชนะเลิศที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 19.45 น.
เพิ่มเติม >> https://www.hayaletboard.net/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E/
Comments
Post a Comment