"โค้ชเฮง" ย้ำบอลไทยต้องมี "ไทยแลนด์เวย์"
ลูกหนัง 11 ข้อพื้นฐานจำให้แม่น “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล อุปนายกฝ่ายเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอล
แห่งประเทศไทยฯ ได้ร่วมงานอบรมวิทยากร หลักสูตร Refresher Insructure Course เพื่อเป็นการอัพเดตข้อมูลให้กับวิทยากรประจำสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เกี่ยวกับการอบรมผู้ฝึกสอนต่างๆ พร้อมทั้งกำหนดนโยบาย เพื่อให้นำไปถ่ายทอดและกระจายสู่ผู้ฝึกสอนทั่วประเทศ ที่ พัฒนา กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท จ.ชลบุรีเมื่อวันที่ 2 เมษายน
อดีตนักเตะทีมชาติไทย และโค้ช “ช้างศึก” กล่าวว่า เราต้องการอธิบายให้ทุกคนได้เข้าใจถึงโครงสร้างของ “ไทยแลนด์ เวย์” เพราะถ้าหากไม่มีการอบรมครั้งนี้เกิดขึ้น ทุกคนก็จะขาดความเข้าใจ และไม่รู้เส้นทางที่ถูกต้อง รวมทั้งได้คุยกันถึง ปัญหาของฟุตบอลไทย การพัฒนาความรู้เรื่องเทรนด์ฟุตบอลสมัยใหม่ เพื่อให้วิทยากรทุกคนได้รับรู้ และนำไปถ่ายทอดให้กับผู้ฝึกสอน ในแต่ละระดับ
"โค้ชเฮง" ย้ำบอลไทยต้องมี "ไทยแลนด์เวย์"
“ถ้าเราไม่เริ่มต้น เราก็มองไม่เห็นอนาคต เราไม่เคยมีแนวทางที่ชัดเจนเลย เราเพิ่งเริ่มต้นเมื่อปีที่แล้ว การทำฟุตบอลทุกอย่างต้องใช้เวลา ไม่มีอะไรที่สำเร็จรูป หรือต่อให้คุณทำได้ แต่มันก็ไม่ยั่งยืน เราไม่ได้ใส่ใจแต่ในระดับทีมชาติ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุด คือเยาวชน ที่เราต้องปลูกฝังเขา ในแต่ละระดับอายุ ว่าเขาต้องทำอย่างไร บกพร่องอย่างไร เราต้องเริ่มต้นที่ต้นน้ำ หากเราไม่มีโครง ทุกอย่างมันก็สะเปะสะปะไปหมด”
“อธิบายง่ายๆ ไทยแลนด์ เวย์ เปรียบเป็นเหมือนโครงสร้างของบ้าน ของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งในหมู่บ้าน ทุกหลังต้องมีโครงสร้างที่เหมือนหรือคล้ายคลึงกัน และเมื่อเรามีโครงสร้างที่แข็งแกร่งแล้ว เราก็จะสามารถตกแต่งอะไรลงไป เพิ่มสีสันให้กับบ้าน เช่นเดียวกับไทยแลนด์ เวย์”
“ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา อย่างน้อยก็ต้องประมาณ 8-10 ปี เราเพิ่งเริ่มมาได้แค่ปีเดียว มันยากที่จะเห็นผลในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งเราก็พยายามกระจายไปในหลาย ๆ ช่องทาง ไม่ใช่แค่กับวิทยากร แต่กับโค้ชทีมชาติแต่ละรุ่น ทั้งชายและหญิง ก็ต้องมีโครงสร้างเช่นกัน ซึ่งมันเป็นมาตรฐานทั่วไปของฟุตบอลทั่วโลกที่ต้องมีโครงสร้าง แต่ที่ผ่านมา เรายังไม่เคยมีเลย”
การอบรมครั้งนี้ ได้เน้นการอธิบายเรื่องรูปแบบการเล่น “ไทยแลนด์เวย์” ความรู้ในเรื่องของหลักพื้นฐาน 11 ข้อ ดังนี้
1. Speed and Technique มีทักษะขณะเคลื่อนไหว เคลื่อนบอลไปข้างหน้าด้วยความเร็ว ไม่มีการหยุดยืนดู, 2. Toward Goal มีการเล่นที่มุ่งหน้าเข้าหาประตูคู่ต่อสู้, 3. Collective Play มีทีมเวิร์ค รู้จักการเล่นรวมกันเป็นทีม เวลาขึ้นเกมขึ้นไปพร้อมๆกัน, 4. Keep Moving เคลื่อนที่ไปกับบอลตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ใกล้บอลหรือห่างออกมา เพื่อความกระชับของรูปทรง (Shape Compact) และสมดุล (Balance) ของทีม, 5. Physical Contact มีความแข็งแกร่งทางด้านร่างกาย เพื่อไม่ให้เกิดการเสียเปรียบในการเบียดแย่งหรือครอบครองบอล
6. Dual 1 v 1 มีความสามารถในการเอาชนะในสถานการณ์ 1 ต่อ 1 ไม่ว่าเกมรุกหรือเกมรับ, 7. Tactical Flexibility มีความยืดหยุ่นทางแทคติกที่เปลี่ยนไปเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในสนามหลากหลายรูปแบบ, 8. Regain the Ball Quickly แย่งบอลได้รวดเร็ว เวลาบอลเสียต้องแย่งคืนกลับมา ไม่ใช่ยืนดู, 9. Hungry for Goal มีความกระหายที่จะทำประตูคู่ต่อสู้ตลอดเวลา, 10. Competitive Mentality มีหัวจิตหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตามหลัง และ 11. Winning Mentality มีความเป็นผู้ชนะทั้งในและนอกสนาม ใส่ใจรายละเอียดในการซ้อม เพื่อให้ตนเองสามารถเอาชนะในทุกๆ นาทีที่ลงแข่งขัน
นอกจาก "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล แล้ว ยังมี ลิม คิม ชอน หัวหน้าฝ่ายอบรม และ วิทยากรของสมาคมฯ อีก 20 คน ร่วมอบรม ดังนี้
"โค้ชเฮง" ย้ำบอลไทยต้องมี "ไทยแลนด์เวย์"
นายทองสุข สัมปหังสิต,นายทรงยศ กลิ่นศรีสุข,นายสารทูล สิงห์นันท์, นายเจตนิพัทธ์ รชตเฉลิมโรจน์,นายเอกลักษณ์ ทองอ่ำ,นายธงชัย รุ่งเรืองเลิศ,นายจตุพร ประมลบาล,นายประสบโชค โชคเหมาะ,นายชัชวาลย์ เพ็ชรไทย,นายทวีศักดิ์ โมราศิลป์, นายสญชัย บุญช่วย,นายวิสูตร วิชายา, นายปิยะพันธุ์ ชะบา,นายสุรพล ธาตุระหัน, นายอัคถภรณ์ ชลิตาภรณ์, นายชัยยง ขำเปี่ยม, นายเนติพงษ์ ศรีทองอินทร์, นางสาวธิดารัตน์ วิวาสุขุ และ นางสาวอนุศรา หมายเจริญ
สำหรับการอบรมหลักสูตร Refresher Instructure Course ครั้งนี้ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 เมษายน และจะมีการจัดอบรมอย่างต่อเนื่องทุกปี ปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้วิทยากร มีความรู้และอัพเดตข้อมูลเรื่องการสอนฟุตบอลที่ทันสมัยที่สุด รวมถึงร่วมกันแก้ไขปัญหาของวงการฟุตบอลไทย
ไปต่อที่ >> https://realkeiba.com/%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9Aufabet-%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B8%9F%E0%B9%88%E0%B8%B2/
Comments
Post a Comment